ในปัจจุบันผู้คนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น
เนื่องจากตระหนักถึงความสำคัญของพิษร้ายอันตรายจากการใช้สารเคมีที่ตกค้าง
ที่พบในอาหารที่รับประทานเข้าไปสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆได้มากมาย และถ้ากล่าวถึงทางเลือกในการดูแลสุขภาพ
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายรูปแบบ
และอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังนิยมกันอย่างแพร่หลายก็คือ เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดเชีย (Chia Seed) ธัญพืชมหัศจรรย์
ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและอีกทั้งยังช่วยป้องกันโรค
โดยเฉพาะโรคเบาหวาน แต่เมล็ดเจียก็ไม่ได้มีข้อดีเพียงเท่านี้
เพราะเมล็ดเจียยังเป็นตัวช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
เรียกได้ว่าเป็นธัญพืชที่มีคุณประโยชน์คับเมล็ดก็ว่าได้ สำหรับเมล็ดเจียมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า
Salvia Hispanica นิยมปลูกกันมากในแถบประเทศแม็กซิโก โดยชาวอาณาจักรแอซแท็ก
ได้นำเมล็ดเจียมาใช้ผสมกับข้าวโพด ถั่ว ผักโขม และนำมาบดรวมกับแป้ง
เพื่อคั้นน้ำออกมาใช้ดื่มหรือใช้สำหรับปรุงอาหาร และยังใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย
ในเมล็ดเจียหนึ่งเมล็ดนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิเช่น โอเมก้าสาม ซึ่งมีช่วยบำรุงสมองและจอประสาทตา
ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดและลดไขมันในเลือด แคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
ลดการเสื่อมของกระดูก โบรอน ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกได้ดีขึ้น
ไฟเบอร์ เป็นกากใยที่เป็นตัวชะลอในกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล โปรตีน ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหากรด แก๊สในกระเพาะสูง หากทานเมล็ดเจียเป็นประจำ
ถึงแม้ว่าเมล็ดเจียจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด แต่ก็ข้อยกเว้นอยู่หลายประการเช่นกัน
โดยผู้ที่มีความดันต่ำ รวมถึงผู้ที่ใช้ยาแอสไพรินและยาสลายลิ่มเลือด
ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
เพราะจะมีผลต่อสารในน้ำนมให้เปลี่ยนไปจากเดิม
ฉะนั้นควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะเมล็ดเจียเป็นเพียงตัวช่วยในการเสริมอาหารเท่านั้น
ไม่ใช่ยารักษาโรค จะเห็นได้ว่าดารบริโภคเมล็ดเจียมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ดังนั้นก่อนการบริโภคก็ควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน
ที่มาจาก: http://health.kapook.com/view110535.html
นางสาวกชกร คำคง ม.6/2 เลขที่
1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น