ยินดีต้อนรับครับ

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558

ความพอดีที่พ่อสอน



เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชีวิต           ตามแนวคิดนำร่องของพ่อหลวง
ทรงเป็นดั่งร่มไทรไทยทั้งปวง                   พระทรงห่วงชาวประชาข้าบาทไทย
ทรงชี้นำแนวทางสร้างอาชีพ                     ดุจประทีปส่องทางสว่างไสว
ตามวิถีแปรเปลี่ยนเวียนหมุนไป                 ของโลกในปัจจุบันที่ผันแปร
รู้จักเดินสายกลางทางชีวิต                        ไม่ยึดติดจิตใจให้แน่วแน่
พึ่งตนเองก่อนจะให้ใครดูแล                      จึงจักแก้ปัญหาอย่าท้อใจ
ความพอเพียงเพียงพอที่พ่อสอน                ล้วนสะท้อนภูมิปัญญาล้ำค่าได้
พลิกชีวิตที่ลำบากยากเข็ญใจ                     หากเราใช้ความพอเพียงเพื่อเลี้ยงตน
ทรัพยากรมากมายมีหลายหลาก                  ที่เกิดจากธรรมชาติไม่ขัดสน
รู้จักกินรู้จักใช้ไม่อับจน                              ประมาณตนไว้เถิดเกิดผลดี
ไม่ดิ้นรนขวนขวายให้เป็นทุกข์                    แค่เราสุขแบบพอเพียงเยี่ยงวันนี้
ตั้งมั่นในคุณธรรมนำชีวี                              สมกับที่องค์พ่อหลวงทรงห่วงใย.
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการดำรงชีพอย่างจริงจัง ดังพระราชดำรัสว่า "...ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง..." ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนในการดำรงชีพก็ตาม ดังพระราชดำรัสที่ว่า "...ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสำคัญ..." ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าขายประกอบอาชีพแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรงดังอดีต ซึ่งมีพระราชดำรัสเรื่องนี้ว่า "...ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนา และการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น..." ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยากครั้งนี้ โดยต้องขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้เกิดมีรายได้เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ พระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ให้ความชัดเจนว่า "...การที่ต้องการให้ทุกคนพยายามที่จะหาความรู้ และสร้างตนเองให้มั่นคงนี้เพื่อตนเอง เพื่อที่จะให้ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้าที่มีความสุข พอมีพอกินเป็น ขั้นหนึ่งและขั้นต่อไปก็คือให้มีเกียรติว่ายืนได้ด้วยตนเอง..." ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดีลดละสิ่งชั่วให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ด้วยสังคมไทยที่ล่มสลายลงในครั้งนี้เพราะยังมีบุคคลจำนวนมิใช่น้อยที่ดำเนินการโดยปราศจากละอายต่อแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราโชวาทว่า "...พยายามไม่ก่อความชั่วให้เป็นเครื่องทำลายตัว ทำลายผู้อื่น พยายามลดพยายามละความชั่วที่ตัวเองมีอยู่พยายามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายาม รักษาและเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่นั้น ให้งอกงามสมบูรณ์ขึ้น
ที่มาจาก :  https://sites.google.com/site/yonradasnook/
http://yuyuptlover.blogspot.com/2012/12/blog-post.html
นางสาวสุนิสา  ชูกลิ่น ม.6/2 เลขที่ 37

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น